แม้ว่าจะยังไม่มีการขยับโมเดลนี้เป็นโกบอลโมเดลเพื่อวางขายทั่วโลกกันสักที แต่ล่าสุดก็ได้มีการประกาศว่าจะเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ของ CBR250RR เวอร์ชั่นใหม่ที่เป็นแบบ customized concept ซึ่งจะเน้นการออกแบบตัวรถที่เป็นโทนสีขาวดำ มีความเรียบหรูอยู่ในตัวพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งบางอย่างที่แตกต่างกันออกไปจากเดิม





โดยเพื่อนๆ ที่ติดตาม GreatBiker มาตลอดนั้นน่าจะจำได้ว่าในช่วงปีที่แล้วนั้นทางเราได้เคยนำเสนอเจ้ารถคันนี้กันไปเมื่อครั้งโชว์ตัวกันครั้งแรกในงาน Tokyo Motor Show 2017 ซึ่งขณะนั้นยังจะต้องนับว่ามันเป็นรถต้นแบบกันอยู่ โดยทางผู้ออกแบบได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโมเดลนี้ไว้ว่า เจ้า CBR250RR customized concept นั้นมันจะมีโทนสีที่เน้นความเรียบง่ายแต่หรูหรา ซึ่งการที่ตัวรถนั้นจะมีสีแดงตัดมาเพียงเล็กน้อย (ลวดลายสติ๊กเกอร์) บนพื้นฐานของตัวถังสีขาวมุก จะทำให้ฟีลลิ่งในเรื่องภาพลักษณ์ของตัวรถนั้นแตกต่างกันออกไปจากสีสันก่อนหน้านี้




และที่สำคัญก็คือตัวท่อรถนั้นมีการติดตั้งท่อของ Akrapovic แบบสลิปออนมาให้จากโรงงานเลยด้วย รวมไปถึงครอบเบาะท้ายแบบคาร์บอนที่จะให้อารมณ์ของรถแข่งแบบเต็มตัว สำหรับสเปคเครื่องยนต์ของ CBR250RR นั้นจะเป็นแบบ DOHC 4 จังหวะ 8 วาว์ล ขนาด 249.7 cc แบบ 2 สูบเรียง มีขนาดกระบอกสูบเท่ากับ 62.3 mm และช่วงชัก 41.4 mm อัตราส่วนแรงอัดเท่ากับ 11.5:1 โดยที่รอบสูงสุดของตัวเครื่องยนต์นั้นจะอยู่ที่ 16,000 รอบต่อนาที และที่สำคัญ Red Line อยู่ที่ 14,000 รอบต่อนาที เรียกได้ว่าจัดจ้านเอามากๆ สมกับรหัส RR ตัวเครื่องยนต์นั้นจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ที่เป็นเอกสิทธิ์ของทาง Honda ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำและพัดลมอัตโนมัติ ในส่วนของทอร์คและแรงม้าสูงสุดนั้นยังไม่มีข้อมูลเปิดเผยออกมาในขณะนี้ ตัวรถขับเคื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีดแบบ 1-N-2-3-4-5-6 สตาร์ทมือไฟฟ้า คลัทช์เป็นแบบเปียกทำงานร่วมกับคอยล์สปริง ในส่วนของน้ำมันเครื่องนั้นมีความจุอยู่ที่ 1.9 ลิตรด้วยกัน



ตัวรถเองนั้นยังคงใช้คันเร่งแบบไฟฟ้า และมีโหมดในการขับขี่มาให้เลือกกันอยู่ 3 โหมดด้วยกันคือ Comfort, Sport และ Sport + โดยที่โหมด Comfort นั้นกำลังของตัวรถจะถูกดรอปลงมา ในขณะที่โหมด Sport และ Sport + จะเปิดกำลังให้มากที่สุดตามประสิทธิภาพของตัวรถเลย เพียงแต่ว่าโหมด Sport นั้นจะมีการไต่ความเร็วที่ราบลื่นนุ่มนวลกว่า แต่ Sport + จะอัดกันเต็มกำลังในแต่ละเกียร์เลย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะไม่นุ่มนวลเท่าไหร่ แต่รับรองว่าฟีลลิ่งแบบรถที่แข่งกันในสนามมาเต็มอย่างแน่นอน โดยเวอร์ชั่นใหม่นี้เตรียมที่จะเปิดตัวกันในประเทศญี่ปุ่นกันช่วงเดือนเมษายนที่จะมาถึงนี้

มาถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตลาดโลกรวมไปถึงประเทศไทยบ้านเรานั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะล่าสุดจากการที่ Kawasaki เปิดตัว Ninja 400 กันมาก็ทำให้ดูเหมือนว่าจะเป็นการตั้งกำแพงเรื่องของขนาด cc กันใหม่แล้ว หรืออาจจะเป็นการบ้านที่ทาง Honda ต้องกลับไปคิดอีกครั้งหากจะมีการปล่อยโมเดล CBR-RR กันใหม่ในตลาดโลกว่าจะต้องใช้ cc กันที่เท่าไหร่ งานนี้ต้องรอติดตามกันต่อไป

ที่มา: Greatbiker.com

Spoiler

อ่านต่อ...