Yamaha M-Slaz ไมเนอร์เชนจ์กระแสมาแรง พร้อมเครื่องยนต์ 155cc แบบมี VVA ด้วย!

การสนทนาใน 'News and Articles' เริ่มโดย News, 3 กุมภาพันธ์ 2018

By News on 3 กุมภาพันธ์ 2018 at 07:01
  1. News

    News Moderator ทีมงานสมาชิก

    ข้อความ:
    565
    Likes Received:
    0
    [​IMG]

    นับว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลในระดับกระแสหลัก (main stream) ของตลาดกับ Yamaha M-Slaz ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงปีที่ผ่านมาก็ได้มีคู่แข่งตัวฉกาจอย่างเจ้า CB150R เปิดตัวมาเป็นคู่แข่งในพิกัดเดียวกันแบบชัดเจน ถึงแม้ว่าคาแรกเตอร์ในการออกแบบตัวรถนั้นจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็ย่อมที่จะถูกนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้สำหรับผู้บริโภค



    และแล้วในปี 2018 นี้ก็ถึงเวลาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นกับเจ้า M-Slaz กัน แม้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบไมเนอร์เชนจ์เท่านั้น (ยังไม่ใช่ All New) แต่มันก็จะถือว่ามีความแตกต่างกับเวอร์ชั่นเดิมอย่างเห็นได้ชัดๆ ในเรื่องของเครื่องยนต์และก็ระบบใหม่ที่จะมีเพิ่มเข้ามาให้ โดยกระแสข่าวนี้ถึงจะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ก็น่าเชื่อถือในระดับหนึ่งเลยทีเดียว กับข้อมูลที่ระบุว่า M-Slaz 2018 ไมเนอร์เชนจ์นั้นจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 155cc และมีระบบวาล์วแปรผัน VVA ติดตั้งมาให้ด้วย นับว่าเป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจเอามากๆ ซึ่งก็หมายความว่ามันจะเป็นเครื่องยนต์ลูกเดียวกันกับ YZF-R15 เวอร์ชั่นล่าสุดนั่นเอง


    [​IMG]

    M-Slaz 2017

    ซึ่งก่อนอื่นเลยอยากให้เพื่อนๆ รู้จักกันกับการทำงานของระบบ VVA ก่อน คำๆนี้ย่อมาจาก “Variable Valve Actuation” ซึ่งแปลได้สั้นๆว่า “ระบบวาล์วแปรผัน” นั่นเอง ซึ่งระบบวาล์วแปรผันนี้ ช่วยทำให้รถมีแรงบิดและกำลังของเครื่องยนต์มีสมรรถนะดี ทั้งช่วงความเร็วรอบต่ำ กลางและสูง เพราะโดยปกติแล้วรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไปย่อมมีข้อจำกัดหรือข้อด้อยอยู่ในตัวเช่นกัน เช่นเครื่องยนต์บางตัวมีสมรรถนะที่ดีในช่วงความเร็วรอบต่ำ แต่จะมีสมรรถนะน้อยลงเมื่อความเร็วรอบสูง หรือเครื่องยนต์ บางตัวมีสมรรถนะที่ดีในความเร็วรอบสูงแต่จะมีสมรรถนะไม่ดีในความเร็วรอบต่ำ แต่ระบบวาล์วแปรผันนี้ (VVA )จะทำได้ดี ทั้งรอบต่ำ, รอบกลางและรอบสูงนั่นเอง


    และหากอ้างอิงกับ YZF-R15 เวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว ระบบการทำงานของระบบวาล์วแปรผัน จะทำงานในช่วงรอบเครื่องยนต์ปานกลางถึงรอบสูง ตั้งแต่ 7,400 รอบขึ้นไป ระบบวาล์วแปรผันก็จะทำงานตามสภาพการขับขี่ของเราทันที โดยที่ระบบวาล์วแปรผันจะมีแคมสองตัวคือแคมรอบต่ำและสูง ความเร็วรอบต่ำกว่า 7,400 รอบ ระบบจะเลือกให้ใช้แคมรอบต่ำเพื่อสมรรถนะของทอร์คที่ดี พอการใช้งานที่เกิน 7,400 รอบ ระบบจะเปลี่ยนไปให้ใช้แคมรอบสูง ที่กำลังในรอบสูงดี จึงทำให้ระบบวาล์วแปรผันทำให้รถมีสมรรถนะที่ดีในช่วงความเร็วรอบต่ำ,กลางและสูง โดยระบบนี้มีส่วนประกอบทั้ง เพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) รอบต่ำ และ เพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) รอบสูง ซึ่งทั้งสองเพลาลูกเบี้ยวนี้ จะช่วยควบคุมและเปิดปิดวาล์วไอดีให้กว้างเพื่อที่จะช่วยรักษากำลังเครื่องยนต์ไว้ และจะสลับการทำงานจากรอบต่ำไปรอบสูงที่ 7,400 รอบ โดยมีกระเดื่องกดวาล์ว เป็นตัวส่งผ่านการทำงานเคลื่อนที่ขึ้นและลงของวาล์ว ตามจังหวะเพลาลูกเบี้ยวรอบต่ำและรอบสูง โดยทำงานร่วมกับวาล์วไอเสียอีกด้วย

    [​IMG]

    M-Slaz 2017

    หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ให้ลองนึกถึงจังหวะการหายใจของตัวเราเองดู หากว่าเรากำลังเดินช้าๆ แต่ดันหายใจถี่และแรง มันก็ไม่เหมาะทำให้เหนื่อยเกินความจำเป็น ในทางกลับกันหากกำลังวิ่งเร็วๆ อยู่แต่กลับหายใจอย่างช้าๆ ค่อยๆ ก็จะกลายเป็นหายใจไม่ทันและไม่มีแรงจะวิ่งกันต่อไปในที่สุด สรุปก็คือเราจะต้องแปรผันจังหวะการหายใจของเราให้เหมาะสม กับเครื่องยนต์ก็เช่นเดียวกัน ระบบ VVA จึงถือกำเนิดมาเพื่อช่วยในการแปรผันการเปิดวาล์วให้เหมาะสมที่สุดกับความเร็วของรอบในแต่ละช่วงการทำงาน และทำให้เกิดการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงแบบสูงสุดด้วยนั่นเอง รอติดตามความคืบหน้าและช่วงเวลาที่จะเปิดตัวกันได้จากทาง GreatBiker เช่นเคย

    ที่มา: Greatbiker.com
     

ความคิดเห็น

การสนทนาใน 'News and Articles' เริ่มโดย News, 3 กุมภาพันธ์ 2018

แบ่งปันหน้านี้